เคยได้ยินเรื่องนี้ไหมครับ เป็นเรื่องครูเชียงราย
ที่ "ทักษิณ ชินวัตร"นำมาเป็นตัวอย่างเป็นประจำ
ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า
"ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร"
เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า "7 บาท"
แต่มีเด็ก 2 คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น
คนหนึ่งตอบว่า "2 บาท" อีกคนหนึ่งตอบว่า "ไม่ต้องทอน"
ครูถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท
คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10 บาท คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ
เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ
ดังนั้นจึงได้เงินทอน 2 บาท
ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย
คำตอบก็คือเด็กคนนี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ
เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ
เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา
โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน
ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง
เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่
การสร้างโจทย์ที่ "เสมือนจริง" จินตนาการของ "ครู"
อาจถูกจำกัดเพียงแค่ "ตัวเลข"
แต่สำหรับเด็ก จินตนาการของเขาไร้กรอบ
10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท
ถ้าเมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท
เราอาจได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1 บาท
โลกในห้องเรียนกับโลกของความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน
โลกในห้องเรียน ทุกคำถามส่วนใหญ่มีเพียง 1 คำตอบ
แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1 คำตอบ
No comments:
Post a Comment