มีชายคนหนึ่งที่บ้านทำมาหากินด้วยการขายข้าวมันไก่
ซึ่งบ้านนี้จะมีธรรมเนียมสืบทอดกันต่อๆ มาว่า
เมื่อเจ้าของกิจการตาย
ผู้ที่เป็นลูกชายจะต้องทำการสืบทอดกิจการนี้ต่อจากผู้เป็นพ่อ
ซึ่งบ้านนี้ก็ทำเช่นนี้มาตลอดถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจทำก็ตาม
จนวันหนึ่ง พ่อของชายคนนี้เสียชีวิตลง
เขาก็จำเป็นต้องสืบทอดกิจการร้านข้าวมันไก่ต่อจากพ่อของเขา
ทุก ๆ อย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี
จนมาถึงวันครบรอบการตายของพ่อเขา
วันนั้นที่ร้านขายดีมาก ๆ แบบที่ไม่เคยขายดีขนาดนี้มาก่อน
ได้มีเด็กผู้หญิงคนนึงซึ่งเธอเป็นลูกค้าประจำของร้านมาซื้อข้าวมันไก่ไปกินเป็นอาหารเย็น
ตอนนั้นเป็นเวลาโพล้เพล้ แสงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
เจ้าของร้านก็รีบทำให้เด็กผู้หญิงเพราะเริ่มมืด
แล้วเธอยังต้องเดินไปบ้านเธออีกไกล
เด็กผู้หญิงก็รีบเดินกลับไปบ้าน ด้วยหวังว่าจะได้อร่อยกับข้าวมันไก่
แต่เมื่อเธอมาถึงบ้าน และเปิดดูในกล่องข้าว
ปรากฏว่ามีแต่ข้าว ไม่มีไก่แม้แต่ชิ้นเดียว!!!
เธอแปลกใจมาก หลังจากนั้นเธอก็เดินออกไปเพื่อซื้อข้าวมันไก่อีกครั้ง
แต่คราวนี้เธอจับตามองดูเจ้าของร้านอย่างใจจดใจจ่อ
เพราะกลัวว่าเจ้าของร้านจะโกงเธอ
แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ เธอก็รีบเอาข้าวมันไก่กล่องนั้นกลับบ้านทันที
เมื่อมาถึงบ้านเธอก็รีบเปิดกล่องข้าวมันไก่ทันที
แต่แล้ว....ก็ไม่พบไก่แม้แต่ชิ้นเดียวเหมือนเดิม
อากาศรอบข้างตอนนั้นเงียบสงัด เยือกเย็น
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียง แง้มประตู
เธอเริ่มกลัว แต่ทว่าเสียงนั้นเป็นเสียงพ่อของเธอกำลังเปิดประตูบ้านเดินเข้ามา
เธอจึงส่งเสียงเรียกพ่อของเธอ
เด็กผู้หญิง : (เสียงสั่น)
พ่อจ๋า พ่อมาดูอะไรนี่สิพ่อ หนูซื้อข้าวมันไก่มา 2 กล่อง
แต่มันไม่มีไก่แม้แต่ชิ้นเดียว
ทั้ง ๆ ที่เจ้าของร้านเขาก็ใส่ไก่มาให้แล้ว
(เสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ด้วยความกลัว)
พ่อของเธอทำหน้าแปลกใจ
แล้วครุ่นคิดอย่างรอบคอบ
ทันใดนั้นพ่อของเธอก็กลับกล่องข้าวมันไก่แล้วเปิดดูทันที
พ่อ : อีเด็กโง่ ทีหลังเปิดกล่องให้ถูกด้านสิวะ
ไก่มันอยู่ฝั่งนี้ต่างหาก
No comments:
Post a Comment