Friday, November 28, 2008

จดหมายถึงศิราณี

ถึงพี่ศิราณี... ที่นับถือ

นู๋ได้ติดตามการตอบจดหมายของพี่ศิราณีมานานมากแล้วนะคะ....
แต่ก็ไม่เคยเขียนจดหมายมาถึงพี่เลย...จนวันนี้...
นู๋มีเรื่องรบกวนต้องให้พี่ศิฯ...ของนู๋ช่วยแล้วค่ะ


ตอนนี้นู๋อายุ 15 นะคะ เพิ่งทำบัตรไม่นานนี่เองค่ะ...
นู๋มีเพื่อนคนนึงนะคะเป็นผู้ชายค่ะสมมุติชื่อ ต. ละกันค่ะ
เราคบกันมาหลายเดือนแล้วค่ะ... รู้จักกันทางเน็ท..ผ่านเว็บแห่งหนึ่งแหละค่ะ
ก็โทรคุยกัน chat กัน...เมล์หากันเรื่อยมาค่ะ
แต่ไม่เคยเห็นหนัากันนะคะ จนมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา...
เค้าก็ขอนัดพบนู๋...เค้าว่าเค้าอยากเจอนู๋...
นู๋เล่นตัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี..ทั้งที่ใจระริกอยากตอบตกลงใจจะขาด
นู๋บอกว่าไปไม่ได้มีธุระ...คุณแม่ไม่ชอบให้ไปกะผู้ชาย...
แหลสารพัดค่ะ...จนเค้าเริ่มเปลี่ยนใจ
จะไม่ชวนแล้วนู๋ใจแป้วเลยค่ะ...รีบบอกทันทีว่า
“ถ้าคุณ ต. ตื้ออีกนิดนู๋อาจเปลี่ยนใจ”....
แต่เค้างี่เง่าค่ะ....บอกเกรงใจ
นู๋เป็นอันว่านู๋เป็นฝ่ายชวนเค้าไปแทนค่ะ...
(แต่ไม่เป็นไรนะคะ นู๋เต็มใจ)

และแล้ววันนัดก็มาถึง
เรานัดกันที่หน้าร้านพันธุ์ทิพย์ตามแบบฉบับโลกไซเบอร์...แต่นู๋บอกชัดเจนนะคะ
ว่า...พันธุ์ทิพย์หน้าร้านซีเอ็ดบุ๊คค่ะ...แล้วค่อยไปต่อกันที่สยามหรือมาบุญครอง...
(แหลอีกแล้วค่ะออกนอกประเด็น)....แถวแถวนั้นจะมีโรงหนังแต่กะว่าถ้ามาเจอกัน

นู๋จะล่อลวงเค้าเข้าไปดูหนังกะนู๋เลยค่ะ....อ้อลืมบอกไปเค้าว่าเค้าจะมาในชุดเขียว
กางเกงดำค่ะ นู๋บอกเค้านู๋จะใส่เกาะอกสีดำไปค่ะ....
ถึงสัดส่วนนู๋ไม่เป็นใจแต่นู๋ก็จะพยายามรัดค่ะ
เอาให้อกเป็นอก พุงเป็นพุง....

พอถึงเวลานัดนู๋ก็เห็นเค้ามาแต่ไกลเลยน่ะค่ะ....หล่อมากกกกกกกกกก
ค่ะขอบอก ด้วย sense ของนู๋...
นู๋รู้ว่าใช่แน่นู๋ก็เดินรี่ไปหาเค้าเลยค่ะ...สอบถามก็ใช่จิงจิงค่ะ
^-^ ( ดีใจ ชะ--เอิง เอิง เอย )
แค่เจอะหน้าครั้งแรก...นู๋อยากเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรา
จากเพื่อนมาเป็นพ่อของลูกหนูทันทีเลยค่ะ...


หล่อจิงจิงค่ะ... หล่อระเบิดระเบ้อ...
หล่อสะบัด...หล่อสุดสุด

นู๋มองเค้าด้วยสายตาอยากกลืนกินเค้าไปทั้งตัว...นานกว่า 3 นาที กว่าจะเริ่มพูดคุยกัน
เค้าก็เหมือนกันค่ะ...มองนู๋ด้วยความตะลึงต่างกันนิดเดียวค่ะสายตาเค้าเหมือน....เหมือน...

สมเพทนู๋งัยไม่ทราบแต่ไม่เป็นไรค่ะ....ถึงนู๋ไม่สวยแต่นู๋ self ค่ะ...
นู๋รีบแสดงความเป็นเจ้าของในตัวเค้าทันที...
ด้วยการคล้องแขนเค้าประกาศให้โลกรู้ว่าผู้ชายคนนี้นู๋จอง..
นู๋ก็รีบจูงเค้าไปซื้อตั๋วหนังค่ะ
หนังเรื่องอะไรนู๋ไม่สนใจ...สนใจว่าจะลากเค้าไปดูหนังกัน
2 ต่อ 2 เท่านั้น...เค้าก็อึ้งอึ้งค่ะ

พอเข้าไปนะคะ...นู๋ก็ชวนเค้ากินป๊อปคอร์นค่ะ...กะว่าตอนหยิบจะให้มือมาจับกันแบบในหนัง
ที่นู๋เคยดูแต่....เค้าก็ไม่กินค่ะปล่อยให้นู๋กินคนเดียวจนเกือบหมด...
ถามเค้า...เค้าก็บอกว่าไม่หิวนู๋คิดในใจ.. (ป๊อปคอร์นแค่นี้มันทำให้อิ่มนักรึไงว่ะ)..
นั่งดูไปซักครึ่งเรื่องหนังก็สนุ๊กสนุกนะคะ....แต่เค้าสิคะนั่งนิ่ง ๆ
...สลับกับถอนหายใจเป็นบางเวลา นู๋คิดว่าเค้าคงไม่ชอบดูหนังเท่าไหร่...
ต้องใช่แน่ๆ เลย...นู๋เกรงว่าเค้าจะเบื่อค่ะ...ก็เลยเริ่มเอนตัวไปหาเค้า...
กะจะซบไหล่เค้าอ่ะค่ะ.. ^-^ อิอิ
พอซบแล้วเค้าก็นั่งตัวเกร็งค่ะ....นู๋ว่าเค้าคงชอบ...นู๋ก็เลยนอนอย่างนั้นจนหนังจบค่ะ...


พอออกมาเวลาก็เกือบๆ 6 โมงเย็น...นู๋กะจะชวนเค้าไปต่อค่ะ....
ไปเดินช็อปปิ้งซื้อของแล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน... ตามประสาข้าวใหม่ปลามัน...
แต่เค้ายกนาฬิกาขึ้นมาดูทำท่ารีบรีบบอกว่าเค้ามีนัด...ต้องรีบไป


นู๋ก็เซ้าซี้เล็กน้อยบอกว่าอย่าเพิ่งไป...นู๋ยังอยากรู้จักเค้ามากกว่านี้...เค้าทำหน้าตาลำบากใจมากค่ะ
(แต่ก็ดูน่ารักนะคะ...นู๋ชอบค่ะ...หน้าตาลำบากใจของผู้ชายเนี้ย)
"เอาค่ะ..เอาค่ะ" นู๋พูดกับเค้า...
บอกให้เค้ากลับไปก็ได้...นู๋ยอมค่ะ...แต่คืนนี้ต้องโทรหานู๋นะคะ...
เค้าดีใจค่ะเหมือนนกบินออกจากรัง


นู๋ก็ดีใจค่ะ....ที่เค้ารักบ้านอยากไปทำธุระกับทางนู้น...อย่างนี้เกิดนู๋กับเค้าแต่งงานกันเค้า...

คงต้องรักครอบครัวแน่ ๆ เลยค่ะ...จริงไม๊ค่ะพี่ศิฯ ^-^

คืนนั้น...นู๋เฝ้ารอโทรศัพท์ค่ะ... รอ ..ร๊อ
...รอ...จนถึงตีสามเค้าก็ยังไม่โทรมา...
ปรกตินู๋จะโทรไปคุยบ่อยอยู่นะคะ...นู๋ทนต่อไม่ไหว โทรไปหาเค้าเองเลยค่ะ โทรไปสายก็ไม่ว่าง...

เอ๊ะหรือว่าเค้าอาจเล่นเน็ท... นู๋ก็เลยเข้าในเน็ท...
เปิด ICQ เผื่อเค้าจะอยู่...แต่เค้าก็ไม่เข้ามาค่ะ...
นู๋รอจนนู๋เริ่มท้อค่ะ ..ก็เลยเผลอหลับไป...

ตั้งแต่วันนั้น...จนถึงวันนี้ผ่านไปเป็นเดือน ๆ...
นู๋ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเค้าเลยค่ะ...
โทรไปสายก็ไม่ว่าง...เมล์ไปก็ไม่ตอบ..
นู๋เป็นห่วงเค้าค่ะ...กลัวว่าเค้าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรรึเปล่า...
เป็นอะไรมั้ย... เฮ้อ...กุ้มใจค่ะ....นู๋ขอถามพี่ศิฯ
ดังต่อไปนี้นะคะ

1. ที่นู๋ซบไหล่เค้าในโรงหนัง...นู๋จะมีสิทธิท้องได้รึเปล่าคะ...แล้วถ้าท้อง...เค้าจะรับเป็นพ่อในท้องมั้ยคะ


2. เค้าเป็นอะไรรึเปล่าคะ...ทำไมไม่ติดต่อมา...นู๋เป็นห่วงเค้ากลัวจะเกิดอันตรายค่ะ...


3.พี่ศิฯ ว่าเค้ารักนู๋จริงมั้ยคะ....นู๋กลัวว่าเกิดเผลอตัวเผลอใจยอมเค้าแล้ว...เค้าจะทอดทิ้งนู๋ค่ะ


4. อืม...เกิดสมมุติว่าเราตกลงแต่งงานกัน...พี่ศิฯว่าเราจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดีคะ
..ฮิฮิ... เขิลค่ะ

5.ข้อสุดท้ายน่ะค่ะ พี่ศิฯ...คิดว่าเค้าเป็นคนยังไงคะ...(แต่นู๋ว่าเค้าไม่เลวเลยน่ะค่ะ)


ขอรบกวนพี่ศิฯ
แค่นี้นะคะ...หวังว่าพี่ศิฯคงกรุณาตอบคำถามของนู๋โดยเร็วนะคะ...นู๋จะรอค่ะ


ป.ล
อ้อ..นู๋ลืมบอกไปค่ะว่าก่อนที่เค้าจะกลับ...เค้าซื้อของที่ระลึกให้นู๋ด้วยค่ะ...
แหม..ไม่อยากบอกเลย..แต่ไม่เป็นไรมั้งค่ะบอกแค่พี่ศิฯ
คนเดียว...อืม...เค้าซื้อกระจกให้นู๋ค่ะ น่ารักจังเลย
^-^เค้าคงคิดว่านู๋ชอบแต่งตัวสวยๆ....เลยซื้อกระจกเอาไว้ให้นู๋ส่องอ่ะค่ะ...
อย่างงี้แปลว่าเค้าก็ต้องมีใจให้นู๋ด้วยใช่ไม๊ค่ะพี่ศิฯ....
^-^

และแล้วฝ่ายชายก็เขียนจดหมายไปหาพี่ศิราณีเป็นเนื้อความว่า..


ถึงพี่ศิราณีที่ผมนับถือ...

....ผมได้ติดตามการตอบจดหมายของพี่มาเป็นเวลานานแล้วครับ
แต่ก็เป็นเพียงการอ่านเท่านั้น
โดยไม่คาดคิดว่าจะได้มีโอกาสนำความเดือดร้อนของตัวเองมารบกวนพี่
....เรื่องโชคร้ายของผมเกิดขึ้นโดยมีโลกของอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อครับ...ใช่แล้วครับ
ผมพบผู้หญิงคนหนึ่งในเน็ท ผ่านทางเว็บแห่งหนึ่งครับ
สมมติว่าเธอชื่อ อ. แล้วกันนะครับ (ย่อมาจากอุบาทว์)
ในครั้งแรกที่ทำให้ผมประทับใจในตัวเธอคือสมองครับ...
อย่าครับ อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะผม
เพราะผมเป็นชายผู้ซึ่งมองการไกล ผู้หญิงทุกคนที่ผมคบ
สมองต้องสำคัญเป็นอันดับหนึ่งครับ
และผู้หญิงคนนี้เองก็สร้างความประทับใจให้แก่ผมอย่างมากมาย


ผมเพียรพยายามหลายครั้งหลายคราที่จะขอนัดเดทกับเธอ
แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด เห็นมั๊ยครับ
เธอช่างมีความเป็นกุลสตรีจริง...แต่ความพยายามของผมก็เกือบเป็นหมัน
เพราะความใจแข็งของเธอเนี่ยแหล่ะ
....จนกระทั่งวันหนึ่ง....เหมือนฟ้าผ่า เอ๊ย! ฟ้ามาโปรด
เธอโทรมาขอนัดพบผม แล้วเธอก็นัดพบที่หน้าห้างพันทิพย์
เห็นมั๊ยครับเธอช่างเปี่ยมไปด้วยมันสมองซะจริงๆ
แทนที่จะนัดที่เซ็นเตอร์พ้อยท์ หรือศูนย์การค้าธรรมดาๆ ทั่วไป
มันยิ่งเพิ่มความประทับใจให้ผมมากขึ้นไปอีก

ผมวาดฝันถึงภาพของเธอ ผู้หญิงสูงโปร่ง
ขายาวเรียวเหมือนซอนย่า จมูกโด่งเหมือนน้องฟ้า
และสมองประหนึ่งน้องป๊อบ

ผมนั่งนับรอวันนั้นครับ จนกระทั่ง....
วันนั้น...ที่หน้าร้านซีเอ็ดบุ๊ค ผมมองหานางในฝันของผม
แต่ฉับพลัน ยัยเตี้ยล่ำ ดำปี๋ ฟันเหยิน กรามเหลี่ยม
ก็เข้ามาทักผม....ไม่ !!!....

เสียงร้องในใจของผมปฏิเสธทันทีว่าต้องไม่ใช่เธอ
แต่เธอยืนยันครับว่าเป็นเธอเนี่ยแหล่ะ
โธ่...ชีวิตผมต้องมาพังพินาศลงก็คราวนี้เอง
สมองผมตอนนั้นมึนตึ๊บไปหมดแล้วครับ
มารู้ตัวอีกทีก็หน้าโรงหนังแล้ว
และแขนของยัยผีเสื้อสมุทรก็เกาะหนึ่บอยู่กับแขนผม....

สายตาทุกคู่มองจ้องมายังผม
นี่ผมจะทำอย่างไรดีถ้าพ่อแม่ผมรู้เข้า
ต้องตัดผมออกจากกองมรดกเป็นแน่นอน

แม่นั่นพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ผมตกมาเป็นของเธอ
ทั้งเกาะแกะ เสนอของกินให้ผม
โถ่...อารมณ์นั้นใครจะรับประทานอะไรลงล่ะครับ
มีแต่อยากจะขย้อนของเก่าออกมาล่ะไม่ปาน..

แต่ที่หนักที่สุดคือ เธอเอาใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยหัวสิวมาพิงกับไหล่ของผม
แน่นอนครับ....ประสาททุกส่วนของผมมันตายด้านไปหมด...ชีวิตมันช่างบัดซบอะไรเช่นนี้

พระเจ้าให้ผมเกิดมาแล้วส่งสิ่งสยองขวัญที่สุดในโลกมาด้วยทำไม......


และแล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง
ทันทีที่หนังจบผมแทบจะกระโดดออกมาจากที่นั่น
ซึ่งกว่าเธอจะยอมปล่อยผมออกมาได้
ผมก็ถูกเธฮข่มขืนทางสายตาไม่น้อยกว่าสิบครั้ง
แต่ก็ช่างเถอะครับ...รอดมาได้ก็บุญแล้ว..
ทันทีที่กลับถึงบ้านผมรีบแช่ตัวลงในอ่างน้ำซึ่งใส่เดทตอลไปเกือบค่อนถัง


หวังจะชะล้างคราบต่างๆ นาๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้
หลังจากวันนั้นเธอยังเพียรพยายามติดต่อผมทุกวิถีทางทั้งโทรศัพท์
และ icq แต่ผมไม่ยอมหลงกลอีกแล้วครับ
ผมดึงสายโทรศัพท์ออก พร้อมๆ
กับตั้งใจจะหันหลังให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดชีวิต
มาถึงตอนนี้ผมมีคำถามจะถามพี่ศิราณีดังนี้ครับ

1. ที่เค้าซบไหล่ผมในโรงหนัง พร้อมกับทิ้งคราบน้ำเหลืองจากหัวสิวไว้นั้น จะทำให้ผมติดโรคอะไรมั๊ยครับ


2.เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มันจะเป็นตราบาปในชีวิตของผมมั๊ยครับ กับการที่ผมได้เข้าใกล้สิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวแบบนั้น

3.พี่ศิราณีคิดว่าเธอจะยังตามมาหลอกหลอนผมอีกมั๊ยครับ แล้วทำยังไงผมถึงจะหนีเธอพ้นครับ

4. สมมติว่าวันหนึ่งเธอบังเอิญตามหาตัวผมจนเจอ ผมควรทำอย่างไรดีครับ

5.และข้อสุดท้าย เรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ผมสามารถแต่งงานกับหญิงอื่นได้มั๊ยครับ
จะมีใครรังเกียจประวัติครั้งนี้ของผมมั๊ยครับ

หวังว่าสิ่งที่ผมพร่ำพรรณามาทั้งหมดนี้ คงจะไม่เป็นการรบกวนเวลาอันมีค่าของพี่นะครับ
เพราะผมร้อนใจมาก แล้วผมจะรอคำตอบจากพี่นะครับ


--- จบ ---

No comments: