Thursday, November 27, 2008

สัญญาณบอกเหตุเมื่อรักจืดจาง

คบกันมานานแล้ว ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรายังรักกันอยู่ไหม
ครั้นจะถามไปตรงๆ ก็ไม่กล้า กลัวเขาจะหาว่าเราไม่มั่นใจในตัวเขาเสียอีก
แล้วจะทำยังไง ถึงจะรู้ได้ว่าความรักระหว่างเราแปรเปลี่ยนเป็นอื่นไปหรือยัง
หันมาลองสังเกตพฤติกรรมเล็กน้อยๆ เหล่านี้ ที่คุณและเขาทำร่วมกัน
ดูซิว่ามันต่างไปจากเดิมหรือไม่ และมีสัญญาณใดที่จะเป็นตัวบ่งชี้
หรือเป็นลางบอกเหตุให้คุณรับรู้ได้ว่า ความรักหวานชื่นที่เคยมีให้กันกำลังจืดชืด
และจืดจางไม่หวานเหมือนเก่า

สำรวจตรวจตราอาการที่เขาคนนั้นปฏิบัติต่อคุณในขณะนี้แล้วกันว่า
เขาเข้าข่ายคนรักที่กำลังเบื่อหน่ายแฟนตัวเองอยู่รึเปล่า

1. การไปทานอาหาร
เริ่มต้นจากว่า เดิมทีคุณไปทานอาหารด้วยกันก็เพราะอยากเจอหน้าค่าตาแฟนจะได้เจริญอาหาร
เรียกว่ากินไป สบตากันไป อย่างนี้เรียกว่าได้ สองทาง ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มอกอิ่มใจ
แต่หากวันใดที่การไปทานข้าวด้วยกัน เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่ว่าทำไปตามหน้าที่
หรือเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นั่นแหละคือจุดกำเนิดของการปฏิบัติต่อกันแบบขอไปที

2. ไม่สนใจใคร่รู้เรื่องราวส่วนตัวของอีกฝ่าย
เมื่อใดที่คุณเริ่มไม่รู้สึกว่าอยากจะรู้หรือใส่ใจเรื่องราวความเป็นไปที่เป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายหนึ่งเลย
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเคลื่อนไหวในเรื่องต่างๆ ทั้งด้านการทำงาน ครอบครัว ญาติพี่น้อง
ไม่มีการถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบกันเลยทั้งๆ ที่เป็นคู่รัก เป็นแฟนกัน

3. ตั้งเงื่อนไขวางข้อแม้สารพัด
พวกที่ชอบตั้งกฎกติกา เวลาจะทำอะไรให้กันทั้งทีก็ต้องมีข้อแม้ต่างๆ นานาสารพัด
เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันไม่ให้เสียผลประโยชน์ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดการเสียเปรียบกัน
อย่างนี้ถือว่าจุกจิกเกินไปเพราะประสาคนรักกันเขาไม่หยุมหยิมคิดมากกันละเอียดยิบ
ชนิดที่ฉันให้เธอเท่านั้น เธอก็ต้องให้ฉันกลับมาเท่ากับที่ฉันให้ไป

4. ละเลยวันพิเศษ หรือเทศกาลวันสำคัญ
แม้จะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่เรื่องแบบนี้คงต้องมีบ้าง ยิ่งวันพิเศษเล็กๆ น้อยๆ
หรือช่วงเทศกาลสำคัญทั้งทีก็ควรจะมีหวานให้กันสักหน่อยไม่ใช่มาออกตัวว่าลืมหรือจำไม่ได้
เอาเป็นว่าไม่จำเป็นถึงกับต้องหาของขวัญล้ำค่าให้ก็แต่ขอแค่ไม่ลืมกัน และจำวันเกิด
หรือเอ่ยปากพูดคำหวานให้เขารู้ว่าไม่ลืมวัน สำคัญของหวานใจ แค่นี้ก็ปลื้มแล้ว

5. ไม่ค่อยโทรศัพท์ถึงกันเหมือนเก่า
ทำไมมือไม้มันอ่อนไปหมดก็ไม่รู้ จะหยิบโทรศัพท์มากดหาหวานใจทั้งทีก็จำเบอร์ไม่ค่อยได้
ไม่มีอารมณ์อยากที่จะโทรหา เมื่อใดที่อาการโทรศัพท์ลิซึ่มจืดจาง
ปริมาณความถี่ที่กริ๊งกร๊างหากันลดน้อยลงจนน่าใจหายหรือแค่โทรมาอย่างเสียไม่ได
้เพราะกลัวจะถูกต่อว่าที่ไม่ยอมโทรถึงกัน อาการเช่นนี้ถือว่าส่อแววเซ็งแล้วแหละ

6. เฉยชา หากปฏิกริยาอาการเมินเฉย เฉยชา ไม่กระตือรือล้นใส่ใจกันเหมือนเก่า
ประเภทที่แต่ก่อนตอนทะเลาะกันก็จะเถียงกันคอเป็นเอ็นเพื่อเอาชนะกันให้ได้
แต่ตอนนี้เริ่มเงียบเฉยชา และปล่อยให้อีกฝ่ายกลายเป็นบ้าเป็นหลังอยู่เพียงคนเดียว
นั่นแหละใช่เลยที่เขาเริ่มถอดใจไปกับความรัก

7. นัดเดทน้อยครั้ง นานๆ เจอกันที คนรักกันชอบกันก็มีแต่ต้องอยากเจอหน้า
วันหยุดเมื่อไหร่ก็ต้องนัดออกมาเจอกัน หรือไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงกันทั้งนั้น
แต่ถ้าเกิดถึงวันหยุดแล้วเขากลับมีความรู้สึกว่าอยากอยู่กับบ้านมากกว่าที่จะออกไปเจอหน้าหวานใจ
บ่นพิรี้พิไรว่าขี้เกียจออกจากบ้านเพราะรถติด อ้างเหตุสารพัดเพื่อตัดบทที่จะไม่ต้องออกไปพบเจอกัน
สัญญาณรักอันตรายกำลังเข้าใกล้คุณแล้วจริงๆ


อาการเหล่านี้ อาจเริ่มเกิดเป็นพักๆ เท่านั้น ถ้าคุณเริ่มมีอาการที่ว่ามาบ้างแล้วแม้แต่ข้อเดียว
ขอให้รีบเปลี่ยนแปลงมันซะ ถ้าคุณยังอยากที่จะรักษาสัมพันธ์รักครั้งนี้ของคุณอยู่

แต่ถ้าคุณเริ่มเบื่อของเก่า อยากลองรสชาติใหม่ๆ ดูบ้าง
ก็คงต้องเปิดอกพูดคุยกันให้รู้ถึงความรู้สึกว่ายังอยากจะคบหาดูใจกันต่อไปอีกหรือไม่
หรือ ต่างฝ่ายต่างอยากเปิดโอกาสให้ได้มีโอกาสพบเจอคนใหม่ๆ ดูบ้าง

เอาเป็นว่า ถ้ารักจืดก็อย่าลังเลที่จะพูดออกไปเพราะถ้าปล่อยปัญหารักร้าวไปมากกว่านี้
คุณเองอาจจะเป็นฝ่ายที่รู้สึกผิดที่ยังรั้งตัวเขาไว้ ทั้งๆ ที่ความรักมันไม่เหมือนเก่าอีกต่อไปแล้ว

No comments: