Thursday, November 27, 2008

อาบังจับนก

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนกแสนสวยตัวหนึ่ง มีขนสวยงามมาก
มีคนอยากได้ไว้ครอบครองเป็นจำนวนมาก
แต่ไม่เคยมีชาวบ้านคนไหนจับนกตัวนั้นได้เลย
มีอยู่มาวันหนึ่งมี อาบัง ขายถั่ว มานั่งใต้ต้นไม้ที่มีนกแสนสวยอยู่
พอนกแสนสวยเห็นถั่วของอาบังก็เกิดอยากกินขึ้นมา
จึงร้องบอกอาบังว่า อาบัง อาบัง ขอถั่วให้ชั้นกินหน่อยสิ
อาบังได้ยินดังนั้น ก็ตอบกลับไปว่า ได้เลย ได้เลย
แต่ขอขนให้ชั้นเส้นนึงนะ
พอนกได้ยินดังนั้น ก็ก้มลงมองที่ขนของตนเอง
แล้วคิดว่า ขนของตนเองนี่มีเยอะมาก เสียไปสักเส้นคงไม่เป็นไรหรอก
นกแสนสวยก็เลยให้ขนอาบังไปหนึ่งเส้น แล้วก็ลงไปกินถั่วของอาบัง
วันต่อมา นกแสนสวยก็บอกกับอาบังอีกว่าขอถั่วให้ชั้นกินหน่อยสิ
อาบังก็ตอบเหมือนเดิมว่า ขอขนให้ชั้นเส้นหนึ่งก่อน
นกแสนสวยก็คิดเหมือนเดิมว่าขนมันยังมีอยู่เยอะก็เลยให้ขนอาบังไปอีก
เป็นอย่างนี้ต่อไปอีกหลายวัน

จนวันหนึ่ง นกแสนสวยก็ขอถั่วอาบังกินอีก
อาบังก็ตอบเหมือนเดิมว่า ขอขนให้ชั้นเส้นหนึ่งก่อน
นกก็ไม่รีรอรีบให้ขนอาบังไปทันที แล้วลงมากินถั่วของอาบัง
อาบังก็เลยจับนกตัวนั้นไว้ได้
เพราะว่าขนของมันเหลือน้อยแล้วไม่สามารถที่จะบินหนีอาบังได้

เรื่องนี้ถ้าอ่านผ่านไปอาจจะไม่ได้อะไรเลยนะครับ
แต่ถ้าเราลองคิดให้ดี เปลี่ยนจากนกแสนสวยเป็นตัวเรา
ขนของนกแต่ละเส้นคือเวลาของเราที่เสียไปและอาบังเป็นหัวหน้าของเรา
ส่วนถั่วที่อาบังให้ก็เหมือนกับเงินเดือนที่หัวหน้าให้เรานะครับ
หมายความว่าทุกวันนี้ถ้าเรายังประมาทในการใช้ชีวิต
ยังพอใจแค่เงินเดือนที่หัวหน้าให้เราทุกเดือนนะครับ
เวลาของเราก็จะค่อยๆหมดไปเรื่อยๆ
เวลาของเราไม่ได้มีมากมายหรอกครับแป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็หมดไปแล้ว

ซึ่งเงินเดือนที่เราได้รับ ก็แค่พอเราอยู่ได้ทุกเดือนๆ เท่านั้นแหละ
บางคนอาจจะคิดว่าการมีเงินเดือนเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
เพราะว่าการเป็นลูกจ้างเค้าเนี่ยเราไม่สามารถที่จะกำหนดวิถีชีวิตของตัวเองได้
เราถูกกำหนดให้ว่า จะหยุดวันไหน วันนี้จะต้องทำอะไร
ผมไม่อยากให้ทุกคนยึดติดกับความคุ้นเคยกับความสบายเพียงแค่วันนี้
แต่อยากจะให้มองให้ไกลๆ มองถึงอนาคตของเราว่าเราจะหยุดทำงานเมื่อไหร่
เราจะใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างไร

อย่าเป็นเหมือนนกแสนสวยนะครับที่รู้ตัวก็ตอนที่ตัวเองไม่มีขนอยู่ที่ตัวแล้ว

No comments: