เด็กหัดเดิน แม้จะล้มแล้วล้มเล่าแต่ก็ไม่เคยหยุดลุก
หญ้าอ่อนแม้จะถูกหินทับ แต่ก็สงบตัวเพียงเพื่อรอวันแทงยอดขึ้นใหม่
ไม้ใหญ่แม้ถูกไฟแล้งเผาผลาญ แต่ก็พร้อมแตกหน่อเมื่อฤดูฝนมาเยือน
พลังแห่งชีวิตนั้นไม่รู้จักระย่อท้อถอย อุปสรรคถึงจะมาขวางกั้น
อันตรายถึงจะมาคุกคาม แต่ไม่เคยสยบชีวิตให้จำนน
ภัยเหล่านี้ทำได้อย่างมากเพียงปลิดชีวิตไปเท่านั้น
แต่ตราบใดที่ชีวิตยังดำรงอยู่ ชีวิตย่อมหาทางหลุดรอดและเติบใหญ่ในที่สุด
เมื่อปี 2525 มีการขุดพบซากหมู่บ้านดึกดำบรรพ์ในญี่ปุ่นอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี
คนสมัยนั้นรู้จักทำนาแล้ว โดยเก็บผลผลิตไว้ในหลุมใต้ดิน
หลุมหนึ่งยังมีเมล็ดข้าวหลงเหลืออยู่แต่ดำคล้ำและตายหมดแล้ว
กระนั้นก็ยังมีเมล็ดพืชอยู่เมล็ดหนึ่ง รูปร่างแปลกกว่าเพื่อน ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ
เมื่อนำเมล็ดนี้ไปฝังเดินและรดน้ำมันกลับงอกและไม่นานก็ผลิดอกงดงาม
เมล็ดนั้นคือแมกโนเลีย
พลังแห่งชีวิตนั้นยิ่งใหญ่นัก ความยิ่งใหญ่นั้นอยู่ที่การยืนหยัดรู้จักอดทนและรอคอยได้
แม้แต่เวลา 2,000 ปีก็หยุดยั้งความปรารถนาที่จะเติบใหญ่ของแมกโนเลียต้นนั้นไม่ได้
แม้จะถูกบดอัดและกระหน่ำปานใด แต่แมกโนเลียก็ยังคงความอ่อนโยน
และหยิบยื่นความงดงามให้ทุกคนได้ชื่นชมอยู่นั่นเอง
พลังและคุณสมบัติดังกล่าวคือ "พร" ที่ธรรมชาติมอบให้แก่ทุกชีวิต
แน่ละพร้อมๆ กันนั้นธรรมชาติก็มอบความผันผวนปรวนแปรปรปักษ์และความทุกข์มาให้แก่เราด้วย
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาช่วยให้ชีวิตเข้มแข็ง เติบใหญ่และงดงาม
ต้นไม้ไม่ได้ปรารถนาแค่ฤดูฝน หากยังต้องการฤดูร้อน ฤดูหนาว
รวมทั้งบางคราวก็ประสงค์ความช่วยเหลือของไฟป่าด้วย
ทำนองเดียวกัน ภูมิต้านทานในร่างกายเราก็ต้องการเชื้อโรค
เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ และความเจนจัด
ภูมิต้านทานที่เหินห่างจากโรคติดเชื้อ
บางครั้งอาจแปรปรวนและทำร้ายร่างกายของตัวเองได้
ความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตก็จริงอยู่แต่เราหาได้เกิดมาเพื่อจะทุกข์ไม่
ธรรมชาติประทานความทุกข์มาให้แก่เราเพื่อผลักไสให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง
และถ้าสามารถรุดไปสู่อิสรภาพ จนทุกข์แผ้วพานไม่ได้เมื่อไร
ก็เป็นอันหมดหน้าที่ของความทุกข์เมื่อนั้น
แต่ตราบใดที่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น ความทุกข์ก็จะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จ้ำจี้จำไชเราไม่หยุดหย่อน
ความทุกข์และอุปสรรคหมดพิษสง กลับกลายเป็นโอชะให้แก่ชีวิตได้
ก็เพราะธรรมชาติมอบพรอีกอย่างหนึ่งมาให้แก่เรา
นั่นคือความสามารถที่จะแปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นพลังสร้างสรรค์ได้
ด้วยเหตุนี้ ขยะปฏิกูลเมื่อถูกรากไม้ชอนไชไปถึง
จึงกลายสภาพเป็นดอกไม้อันงดงามและผลไม้อันหอมหวาน
พลังแห่งชีวิตหรือพรพิเศษเหล่านี้กำลังทำงานอยู่แล้วทุกขณะ
ถ้าเราไม่ยอมจำนนต่อความทุกข์เสียก่อน เราย่อมสามารถหลุดรอดได้ในที่สุด
แต่ก่อนอื่น เราต้องให้โอกาสแก่พรเหล่านี้ด้วยการให้โอกาสแก่ชีวิตของเรา
เริ่มต้นด้วยการให้ชีวิตของเราได้คงอยู่ ตราบใดที่ชีวิตยังไม่ถูกปลิดไป
ย่อมมีวันเวลาที่ชีวิตจะงอกงามขึ้นใหม่ ไม่ช้าก็เร็ว
จะเป็นการดียิ่งขึ้นไปอีก หากเราไม่ปล่อยให้พลังชีวิตเหล่านี้ทำงานแต่ลำพัง
แทนที่จะนิ่งดูดาย เราจะช่วยได้มากหากเข้าไปเสริมพลังชีวิตอีกแรงหนึ่ง
ร่างกายแม้จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอยู่ตลอดเวลา
กระนั้นสมุนไพร โยคะ ไท้เก็ก อาหารที่สมดุลและการพักผ่อนที่พอเพียง
ก็ยังจำเป็นอยู่เพื่อเสริมภูมิต้านทานให้เข้มแข็งขึ้น
ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่ายามทุกข์หรือยามปกติสุข
เราควรแสวงหาสิ่งดีงามมาให้แก่ชีวิตจิตใจของเราอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อจะได้มีพลัง "ย่อย" ความทุกข์ให้เป็นโอชะหล่อเลี้ยงชีวิตได้ดีขึ้น
ยิ่งเวลาเป็นของมีค่าก็ยิ่งจำเป็นต้องให้เวลาแก่จิตใจของเรา
ด้วยการบำเพ็ญสมาธิ เจริญสติ สม่ำเสมอ นึกคิดในทางกุศล
หมั่นมองด้วยปัญญา มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น
เหล่านี้ล้วนเป็นโอสถเสริมสร้างพลังชีวิตอย่างวิเศษ
ตรงกันข้ามการอยากได้ใคร่เด่น ไม่รู้จักพอ ความโกรธเกลียด ความลำพองตน
มีแต่จะบั่นทอนพลังชีวิต พรนั้นเราไม่จำต้องขอหรือหาจากใครดอก
ธรรมชาติมอบให้แก่เราอย่างเปี่ยมล้นมาตั้งแต่เกิดแล้ว
ขอให้เรานำพรในตัวเรานั้น มาก่อประโยชน์สร้างสรรค์ให้เต็มที่เถิด
ไม่เพียงแต่อายุ วรรณะ สุขะ และพละ เท่านั้น
แม้กระทั่งความเจริญงอกงามของชีวิต อิสรภาพ และความสุข
ที่แท้ก็สำเร็จได้ด้วยพรในตัวเรา เพราะถึงที่สุดแล้วสิ่งประเสริฐเหล่านี้มีอยู่แล้วในตัวเรา
ขึ้นอยู่ว่าเราจะเข้าถึงหรือไม่ เราใส่ใจที่จะดูแลรักษา และบำรุงพรดังกล่าวมากน้อยเพียงใด
เพราะฉะนั้น จึงอยากเชิญชวนให้เราขอพรจากตัวเองบ้าง
ถ้าจะขอให้ตนหลุดพ้นจากความทุกข์ เข้าถึงความสุขเกษมศานต์
ก็ขอให้หลุดพ้นด้วยพรและพลังในตัวเองเป็นสำคัญ
ถ้าจะหวัง ก็พึงหวังว่าขอชีวิตอย่าได้เหนื่อยอ่อน พรอย่าได้เหือดแห้งเลย.
No comments:
Post a Comment