Friday, November 28, 2008

การพูดคุยเพื่อความรักที่ยืนยาว

เพื่อนๆ กับแฟนอาจจะพบปะพูดคุยกันเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่เคยคิดบ้างไหมคะ
ว่าสิ่งที่คุยกันนั้น เป็นตัวส่งเสริมความรักและความเข้าใจกันรึป่าว
การพูดคุยเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากที่สุดสำหรับชีวิตคู่
บางครั้งการคุยจุกจิกในเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรเลย
อาจเป็นตัวผลักดันให้กับชีวิตรักได้อย่างเหลือเชื่อเลยนะคะ
เพราะการคุยเป็นทางออกสำหรับทุกปัญหา พูดให้อารมณ์ดี พูดให้หัวเราะ หรือ
พูดให้เสียใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีพูดหล่ะนะคะ เอาหล่ะ...
เกริ่นมาถึงนี่แล้ว ทีนี้คงรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าการพูดคุยกันน่ะ สำคัญขนาดไหน
เรามาดูเคล็ดเด็ดในการคุยเพื่อความรักที่ยืนยาวกันเถอะค่ะ

อารมณ์ไม่ดี

การบอกให้แฟนรู้ว่าเราหงุดหงิดนั้น
นอกจากจะเป็นเกราะป้องกันการทะเลาะเบาะแว้งกันแล้ว
ยังสามารถเรียกคะแนนความเห็นใจจากเขาได้ด้วยนะคะ
เพราะถ้าเขารู้ว่าเราอารมณ์ไม่ดีอยู่ การพูดคุยอย่างอ่อนโยนและอบอุ่นจากเขา
จะช่วยเราได้มากทีเดียว

อารมณ์ไม่มีถูก-ผิด

เราไม่ควนตัดสินว่าเขาควรดีใจ หรือเสียใจ ในเหตุการณืไหนก็ตาม
หรือไม่ควรจะมีอารมณ์ในเรื่องนั้น เรื่องนี้ เพราะอารมณ์ก็คืออารมณ์ค่ะ
สมมุติว่าเขากำลังผิดหวังเรื่องเงินเดือนไม่ขึ้นซะที ถ้าเราปลอบเขาว่า
"แค่มีงานทำก็ดีถมไปแล้ว อย่าคิดมาก"
อยากจะบอกว่าเป็นคำปลอบที่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยนะคะ การที่เขากำลังโกรธ
ผิดหวังและเสียใจกับเหตุการณ์ตรงนั้น
มันไม่ได้ทำให้เขาลดระดับอารมณ์ลงได้เลยค่ะ
แต่กลับเป็นการตัดสินโดยทางอ้อมว่า เขาไม่มีเหตุผลที่จะมีอารมณ์ฉุนขนาดนี้
ทำไมเราไม่ลองพูดในทำนองนี้ดูล่ะคะว่า "น่าโมโหเหมือนกันนะ
ที่ค่าตอบแทนมันไม่คุ้มค่าเหนื่อย และเวลาที่เสียไป
แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ" จะเป็นการเริ่มบทสนทนาที่ดีกว่านะคะ

คำพูดแฝงความนัย

ในทุกคำพูดที่เราพูดออกไปนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีความหมายอื่นซ่อนอยู่ด้วยค่ะ
นั่นก็เป็นเพราะว่าเรา ต้องการการตอบรับจากอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นธรรมดาค่ะ
เพื่อนๆ จำไว้นะคะว่า
การโต้ตอบที่ดีคือการใช้คำพูดที่ส่งเสริมให้เกิดการสนทนาต่อไปค่ะ
สมมุติว่าแฟนบ่น "ซวยชะมัดเลยวันนี้" เราไม่ควรปากไวตอบกลับไปว่า
"แล้วชั้นไม่ซวยกว่าเรอะ ซวยซ้ำ ซวยซ้อน ซวยทุกวันเนี่ย"
เพราะความนัยของคำพูดนี้เหมือนกับเรากำลังบอกเขาว่า "จะบ่นไรนักหนา
หุบปากซะบ้างเหอะ" เท่านี้เป็นอันจบกันค่ะ ทั้งบทสนทนาและความสัมพันธ์
ทางที่ดี เราควรจะถามเขาว่า "ทำไมเหรอ เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น
ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิ" จากนั้นเขาจะค่อยๆ เริ่มเล่าเหตุการณ์ไม่ดีต่างๆ
นานาที่เจอมาให้เราฟังเองแหละค่ะ

วันๆ ทำอะไร

วิธีที่จะทำให้เขามาสนใจความเป็นไปในชีวิตของเราก็คือ เราต้องเริ่มก่อนค่ะ
โดยการให้ความสนใจ อยากรู้อยากเห้นเกี่ยวกับ
รูปแบบในชีวิตประจำวันของเขาก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้างน่ะค่ะ

ร่วมด้วยช่วยกัน

หมายถึงงานบ้านและกิจกรรมต่างๆ นะคะ เล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ล้างจาน ทำกับข้าว
ปลูกต้นไม้ ช่วงเวลากิจกรรมนี่แหละค่ะ
เพราะการพูดคุยกระจุ๋งกระจิ๋งมักเกิดขึ้นระหว่างที่ทำกิจกรรมเหล่านั้นนั่นเองไงคะ

อย่าย้อน

การด่าสวนโต้ตอบกันกลับไปมานั้น ให้ได้ก็แค่ความสะใจประเดี๋ยวประด่าวนะคะ
แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรต่อชีวิตคู่เลย ดังนั้นถ้าเราโดนเขาต่อว่า
ก็ควรบอกให้เขารู้ว่า เออ รับทราบแล้วนะ แต่ก็อยากฟังเหตุผลของเขาด้วย
สมมุติว่า เขาต่อว่าเรื่องใช้เงินเปลือง
เราก็ไม่ควรเกรี้ยวกราดทันทีและพาดพิงไปถึงวิธีการใช้เงินของเขาว่ามันก็เปลืองพอๆ
กัน แต่ควรจะยับยั้งอารมณ์และตอบกลับไปว่า "นั้นคือมุมมองของคุณใช่ไมี
คราวนี้ขอชั้นพูดบ้างนะ" จะเป็นการเปิดบทสนทนา ทีดี
เพื่อที่จะได้แบ่งปันความคิดเห็นมากกว่าจะเถียงกันนะคะ

ฟัง ฟัง ฟัง

การแสดงออกให้เขารู้ว่าเราใส่ใจและอยากมีส่วนร่วมกับเขา
ทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดหรือประสบการณ์นั้น เป้นการแสดงออกว่า
"ชั้นแคร์คุณนะคะ" ถึงแม้ว่าบางเรื่องจะน่าเบื่อ ไม่มีสีสัน
แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสรรหาคำพูดที่ฉลาดเลิศเกินมนุษย์หรอกค่ะ อย่างน้อย
ให้เขาได้รับรู้ถึงความพยายามก็พอแล้ว พูดเรื่องขำขันบ้างก็ดีนะคะ
เพราะมันคือยาโด๊ปที่ดีค่ะ แต่ดูตาม้าตาเรือด้วยนะคะ ก่อนจะปล่อยมุขฮา
เพราะบางครั้งที่เขาอารมณ์เสีย เขาอาจอยากคุยแบบลึกซึ้ง จริงจังก็ได้ค่ะ

เม้าท์

เม้าท์คนอื่นวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ การคุยกันถึงคนอื่น
จริงก็ไม่ได้เลวร้ายนะคะ แต่ควรเลือกเม้าท์คนที่ทั้งเราและเขารู้จักค่ะ
เชื่อไหมว่า
การเม้าท์วันละนิดจะทำให้เรากะเขาสนิทสนมกลมเกลียวกันทางใจได้มากเลยนะคะ

คุยเรื่อยเปื่อยให้ยาวสุดๆ

ถ้าเขาแสดงความคิดเห้นในเรื่องต่างๆ ก้ออย่าเพิ่งไปดักคอเขา เช่น "รู้แล้วๆ
คุณคิดไรอยู่ชั้นรู้หมดแหละ" แต่เราควรจะกระตุ้นให้เขาพูดต่อไป
เพื่อเป็นการเปิดประตูสู่การคุย คุย คุย ให้นานที่สุด อย่างเช่น "จริงเหรอ
เล่าต่อสิ แล้วเป็นไงต่อล่ะ"

ยกยอปอปั้น

ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายทุกคนชอบฟังคนอื่นชื่นชมเขานะคะ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงเท็จแค่ไหนก็ตาม ถ้าเขาสามารถทำให้อีกฝ่ายหนึ่งพอใจ
หรือมีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นแฟน เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน
จะทำให้เขารู้สึกดี และ เสริมความมั่นใจและกำลังใจให้เขาด้วยค่ะ

แสงสว่างแห่งชีวิต

บอกเขาไปเถอะว่าคำแนะนำต่างๆ นานาของเขาน่ะเป็นสิ่งมีค่ากับเรา
โดยเฉพาะเรื่องที่หนักหนาสาหัสทั้งหลายที่เขาคอยเป้นกำลังใจให้เรา
จะทำให้เขารู้สึกเป็นแมนและเป็นที่พึ่งได้ค่ะ ระลึกไว้เสมอนะคะว่า
คู่รักที่จะจีรังยั่งยืนนั้น ควรตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญๆ
ร่วมกันเสมอค่ะ

หล่อที่สุด

เป็นธรรมดาของผู้หญิงค่ะที่จะมองว่าแฟนเราน่ะหล่อที่ซู้ด (คนเขียนคนนึงหล่ะ)
ไม่ต้องอายค่ะ บอกเขาไปเลยว่าเขาน่ะ หล่อลากดิน สุดเซ็กซี่
และน่าชิดใกล้มากขนาดไหน ในสายตาคุณ
อันนี้ใช้ได้กับคนทุกเพศที่มีความรักเลยนะคะ
เอาหล่ะค่ะ มาถึงตรงนี้แล้ว ทำขนาดนี้ ถ้าแฟนหนุ่มยังคงหนืดๆ ไร้อารมณ์อยู่
ก้อรีบปลุกปล้ำเขาขึ้นมาอ่านด้วยกันนะคะ จะได้มีเรื่องมันส์หยดติ๋งๆ
คุยกันไม่รู้จบ ขอให้โชคดีค่ะ

No comments: