Friday, November 28, 2008

วันสุดท้าย

"ถ้าวันนี้คุณรู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตกำลังจะมาถึง
วันนี้ก็คือวันเริ่มต้นของชีวิต"
ลองคิดทบทวนกับประโยคนี้ดีดีนะครับ
ทำไมวันเริ่มต้นของชีวิตคือวันที่เรารู้ตัวว่าใกล้จะตาย
ผมเล่าเรื่องของคนคนนึงให้ฟังดีกว่า
เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งอธิบายรูปประโยคกันให้เมื่อยตุ้ม
ที่ทำงานคุณมีการตรวจสุขภาพกันรึเปล่าครับ
อือม์ตรวจร่างกายทั่วไปประจำปี
ตรวจโรคติดต่อ ใช่ที่สำคัญมีการตรวจเลือดด้วย
มีคนรู้จักคนนึงทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะบอกว่าเค้าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
เป็นผู้ชายที่เข้าข่ายของกลุ่มเสี่ยงก็ว่าได้
เอาทุกอย่างยกเว้นการพนัน
คนนี้แหละครับที่ผลการตรวจเลือดประจำปีออกมาว่าเค้าเลือดบวก
แต่หมอยังไม่ยืนยัน แล้วก็นัดให้ไปตรวจใหม่อีกสามเดือน
เป็นอันว่าหลังวันตรวจเลือดและรู้ผล เค้าเชื่อว่าผลตรวจเลือดเป็นจริง
เท่านั้นแหละครับ ชีวิตดับทันที งานการไม่ไปทำ
หลบตัวอยู่กับบ้านประมาณอาทิตย์นึงได้
พอเพื่อนๆ เจอหน้าเค้าอีกที
คราวนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ไป
เลิกงานแล้วก็ไปหาแฟน
พาแฟนไปทานข้าวกับพ่อแม่ที่บ้าน เหล้าบุหรี่ก็ไม่แตะอีกเลย
แล้วก็ไม่พูดถึงเรื่องผลการตรวจเลือดอีก เค้ากลับมาทำทุกอย่าง
เล่นกีฬา เที่ยวต่างจังหวัด

จนบางทีเราก็อดสงสัยกันไม่ได้ว่าชีวิตมันมี 48 ชั่วโมงหรือไง
เพราะมันใช้เวลาทุกนาทีคุ้มมาก
จนกระทั่งคนทางบ้านและแฟนมันแปลกใจ
อดไม่ได้ที่จะแอบโทรมาถามเพื่อนว่าเค้าเป็นอะไรเหรอ
ทำไมทำตัวเหมือนคนซึ้งสัจธรรมเลย ตอนนั้นพวกเราก็อึ้งนะครับ
เพราะทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่ก็มีเพื่อนคนนึงพูดขึ้นมาว่า
นี่ถ้ามันเป็นคนดียังงี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตายแล้วหละ ใช่ครับ
ถ้ามันเป็นคนดียังงี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตาย
ทุกวันนี้มันฟื้นกลับมาเป็นคนอีกครั้ง
หลังจากนั้นสามเดือนให้หลัง
ผลตรวจเลือดปรากฏว่ามันไม่มีเลือดบวก
ประโยคที่มันบอกกับพวกเรา
มันบอกว่ามันดีใจที่พระเจ้าส่งมันไปดัดสันดานในนรกมาสามเดือน
ทุกวันนี้มันรักครอบครัวรักแฟน
แล้วพวกเราก็คิดว่ามันทำทุกอย่างได้ดีเท่าที่คนรักควรจะทำ
จนบางทีอดอิจฉาไม่ได้อยากให้ชีวิตเฉียดๆอะไรอย่างมันบ้าง
ชีวิตของเราเริ่มต้นเมื่อวันที่เรารู้ตัวว่ากำลังจะตาย หรือ
จงใช้ชีวิตวันนี้ให้เหมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต

มันก็เหมือนกันความหมายเหมือนกันว่าคนเราไม่รู้จักคุณค่าของชีวิต
จนวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง
วันนั้นแหละที่เราจะรู้ว่าเราอยากทำอะไร
แล้วทำไมเราต้องรอจนกระทั่งวันสุดท้ายมาถึงก่อน
จึงคิดจะทำอะไรที่ใจอยากทำ
แล้วถ้าสมมุติว่าพรุ่งนี้คุณกำลังจะจากคนที่คุณรักไปหละ
วันนี้คุณจะทำอะไรให้เค้าก่อน

No comments: